Verb - คำกริยา

Verb เมื่อเราแบ่งตามหน้าที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท

1. สกรรมกริยา (Transitive Verb)
คือกริยาที่ไม่สามารถทำให้ประโยคสมบูรณ์ได้ด้วยตัวของมันเอง จำเป็นต้องมีกรรม หรือวลีอื่นมารองรับ
เช่น open, read, become, look, show, lie, cleans, give, kick และอีกเยอะแยะมากมายครับ หากยกตัวอย่างวันนี้ไม่จบบทแน่ครับ
  • Shall I close the window?
ผมปิดหน้าต่างได้ไหม? (ถ้ากริยา“ปิด”นี้ ไม่มีกรรมมารองรับ จะกลายเป็น ผมปิด? อ้าว! ปิดอะไรละครับ งงเลยละสิ)
  • I give the gift to you.
ฉันให้ของขวัญแก่คุณ (ถ้าผมเล่าให้ฟังแค่ว่า “เมื่อวานฉันให้” คนฟังคงค้างคาใจมากนะครับว่าผมให้อะไร)
  • When did you buy it?
คุณซื้อมันมาเมื่อไร? (มันในที่นี่คือสิ่งที่ผู้พูดและผู้ฟังเข้าใจกันเป็นอย่างดีว่าคืออะไร)
2. อกรรมกริยา (Intransitive Verb)
คือกริยาที่สามารถทำให้ประโยคสมบูรณ์ได้ด้วยตัวของมันเองโดยไม่ต้องมีกรรม หรือวลีอื่นมารองรับ
เช่น run, smile, cry, swim, walk, jump, stand, breathe อีกเยอะแยะมากกมายอีกเช่นกันครับ
  • Who comes?
ใครมาอ่ะ? (เห็นไหมครับ ว่าแค่ถามว่าใครมา เราก็สามารถเข้าใจความหมายแล้วโดยไม่จำเป็นต้องมีอะไรมารองรับ comes)
  • Wow! Look over there. He is dancing.
ว้าว! ดูนั่นสิ เขากำลังเต้น (จากประโยคไม่จำเป็นต้องอธิบายถึงการเต้นเลยใช่ไหมครับ แค่บอกว่าเต้นก็เข้าใจแล้ว)
  • We were very sad to hear of his death.
พวกเราเสียใจเป็นอย่างมากที่ทราบว่าเขาเสียชีวิต (ความจริงแค่บอกว่าพวกเราเสียใจ ก็ทำให้ประโยคสมบูรณ์แล้ว แต่ในตัวอย่างมีส่วนขยายที่บอกว่าทำไมพวกเราถึงเสียใจ)
3. กริยาช่วย (Auxiliary Verb หรือ Helping Verb)
คือกริยาที่มีเพื่อทำให้ประโยคถูกต้องสมบูรณ์ตามหลักภาษา (โดยส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง tenses ซะมากกว่า) หรือมีเพื่อเพื่อช่วยกริยาตัวอื่นในประโยค ซึ่งสังเกตได้ว่ากริยาแท้จะสามารถอยู่ได้โดยไม่มีกริยาช่วย แต่กริยาช่วยจะไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากกริยาแท้
ExampleExample
V. to beis (เป็น,อยู่, คือ)The movie is showing.was (เป็น,อยู่, คือ)was late.
am (เป็น,อยู่, คือ)am student.were (เป็น,อยู่, คือ)If I were you,I would study more.
are (เป็น,อยู่, คือ)He and I are brothers.
V. to dodo (ทำ)Dothey play football ?did (ทำ)Did you know?
does (ทำ)She does her homework.
V. to havehave (มี)have no money.had (มี)She had a baby.
has (มี)My house has two bed rooms.
Modal verbwillwill go to scool.would (จะ)would go to scool.
(จะเกิดขึ้นแน่นอน)(เป็นรูปอนาคต)(เป็นรูปอดีต คือเล่าถึงอดีต)
can (สามารถ)We can’t change the schedulecould (สามารถ)could swim
shall (น่าจะ)What shall I do?should (น่าจะ)She should listen more.
may (อาจจะ)May I help you?might (อาจจะ)He might be our new teacher.
must (ต้อง)You must keep your room clean.
ought to (ควรทำ)You ought to have read the book.
dare (กล้าที่จะ)Dare to dream.
need (ต้องการ)There is no need for him to work.
use to (เคย)Did you use to live here?

คำกริยา สามารถแบ่งออกได้ตามช่วงเวลาของเหตุการณ์ได้ 3 ช่วง เราเรียกว่า กริยา 3 ช่อง
– กริยาช่องที่ 1 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
– กริยาช่องที่ 2 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
– กริยาช่องที่ 3 ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและอดีต (Perfect tenses) หรือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ (Passive Voice)
เนื้อหาทั้งหมดอ้างอิงจาก : http://www.dailyenglish.in.th/verb/

Comments